ภาวะขาดน้ำคืออะไร ? อันตรายหน้าร้อนที่ไม่ควรมองข้าม
- สาเหตุของภาวะขาดน้ำคืออะไร ?
- การดื่มน้ำไม่เพียงพอในระหว่างวัน
- การเสียเหงื่อมาก จากการออกกำลังกายอย่างหนัก การทำงานกลางแจ้ง ฯลฯ
- ท้องเสีย อาเจียน ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำและเกลือแร่อย่างรวดเร็ว
- ร่างกายสูญเสียน้ำผ่านบาดแผลทางผิวหนัง
- อาการขาดน้ำมีลักษณะอย่างไร ?
- ขาดน้ำปานกลาง (สูญเสียน้ำ 6-10% ของน้ำหนักตัว)
-
- ปากแห้งมาก ลิ้นบวม
- ผิวหนังแห้งและไม่ยืดหยุ่น เมื่อบีบจะคืนตัวช้า
- ปัสสาวะน้อยมากและมีสีเข้ม
- ตาลึก และอาจมีอาการปวดศีรษะ
- หัวใจเต้นเร็วขึ้น
- ความดันโลหิตลดลงเมื่อลุกยืน
- อ่อนเพลียมาก มึนงง
- ขาดน้ำเล็กน้อย (สูญเสียน้ำ 1-5% ของน้ำหนักตัว)
-
- รู้สึกกระหายน้ำมากกว่าปกติ
- ริมฝีปากแห้ง
- ปัสสาวะมีสีเข้มขึ้นและมีปริมาณน้อยลง
- อ่อนเพลียเล็กน้อย
- ผิวแห้งและอาจมีอาการคัน
- ขาดน้ำรุนแรง (สูญเสียน้ำมากกว่า 10% ของน้ำหนักตัว)
-
- ผิวหนังเหี่ยวย่น ซีดและเย็น
- ชีพจรเบาและเร็ว
- ความดันโลหิตต่ำมาก
- หายใจเร็วและลึก
- สับสน ซึมลง หรือหมดสติ
- ไม่ปัสสาวะหรือปัสสาวะน้อยมาก
- อาจมีอาการชัก
- อาจเกิดภาวะช็อกและเสียชีวิตได้หากไม่ได้รับการรักษาทันท่วงที
- วิธีป้องกันอาการขาดน้ำ
-
- ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว โดยสามารถปรับเพิ่มขึ้นตามสภาพอากาศ กิจกรรม และสภาวะร่างกายของแต่ละคน
-
- รับประทานอาหารที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบ เช่น อาหารประเภทซุป แตงโม ส้ม แตงกวา มะเขือเทศ
-
- สวมเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี และเลือกเสื้อผ้าสีอ่อน
-
- หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้งในช่วงแดดจัด ซึ่งมักเป็นช่วงเที่ยงถึงบ่าย
-
- พกกระบอกน้ำติดตัว ช่วยให้มีน้ำดื่มพร้อมเสมอเมื่อรู้สึกกระหายหรืออยู่ในสถานการณ์ที่ต้องการน้ำ
นับวัน ประเทศไทยอากาศยิ่งร้อนขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งในปีนี้เราจะเห็นได้ว่าร้อนกว่าปีที่ผ่าน ๆ มา และเชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยได้ยินคำเตือนเกี่ยวกับการดื่มน้ำให้เพียงพอกันอยู่บ่อยครั้ง บางคนก็ปฏิบัติตามบ้าง ไม่ปฏิบัติตามบ้าง แต่รู้หรือไม่ว่าอาการขาดน้ำถือเป็นภาวะที่อันตรายและส่งผลเสียต่อร่างกายในหลายด้านทีเดียว
บทความนี้จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกันว่าภาวะขาดน้ำคืออะไร มีสาเหตุมาจากอะไร มีอาการอย่างไร ตลอดจนวิธีป้องกัน เพื่อให้คุณสามารถดูแลสุขภาพของตนเองและคนรอบข้างได้อย่างถูกต้อง
ภาวะขาดน้ำคืออะไร ?
อาการ Dehydration หรือภาวะขาดน้ำ คือ สภาวะที่ร่างกายสูญเสียน้ำและเกลือแร่มากกว่าที่ได้รับเข้าไป ส่งผลให้ปริมาณน้ำในร่างกายลดลงต่ำกว่าระดับที่จำเป็นสำหรับการทำงานปกติของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย โดยในภาวะนี้ ร่างกายไม่สามารถรักษาสมดุลของน้ำและอิเล็กโทรไลต์ได้อย่างเหมาะสม ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อกระบวนการทางสรีรวิทยาที่สำคัญ เช่น การไหลเวียนของเลือด การควบคุมอุณหภูมิร่างกาย การขับถ่ายของเสีย
สาเหตุของภาวะขาดน้ำคืออะไร ?
การดื่มน้ำไม่เพียงพอในระหว่างวัน
ร่างกายต้องการน้ำอย่างสม่ำเสมอเพื่อทดแทนน้ำที่สูญเสียไปจากการหายใจ การขับถ่าย และการระเหยผ่านผิวหนัง หากไม่ดื่มน้ำให้เพียงพอ โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนหรือแห้งอย่างในประเทศไทย ร่างกายจะเริ่มขาดน้ำ ซึ่งปริมาณน้ำที่ร่างกายต้องการจะแตกต่างกันไปในแต่ละคน ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น น้ำหนักตัว กิจกรรมที่ทำ และสภาพแวดล้อม ฯลฯ
การเสียเหงื่อมาก
เหงื่อเป็นกลไกสำคัญในการควบคุมอุณหภูมิร่างกาย แต่การเสียเหงื่อมากเกินไปโดยไม่ได้ทดแทนน้ำที่สูญเสียไปอย่างเพียงพอ อาจนำไปสู่อาการขาดน้ำได้ โดยสถานการณ์ที่อาจทำให้เสียเหงื่อมาก เช่น การออกกำลังกายอย่างหนัก การทำงานกลางแจ้ง การเป็นไข้ หรือการอยู่ในสภาพอากาศร้อนและชื้น
ท้องเสีย อาเจียน
อาการท้องเสียและอาเจียนทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำและเกลือแร่อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเกิดขึ้นพร้อมกัน ในกรณีที่มีอาการรุนแรงหรือต่อเนื่อง อาจนำไปสู่อาการ Dehydration อย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นอันตรายมากโดยเฉพาะในเด็กเล็กและผู้สูงอายุ
ร่างกายสูญเสียน้ำผ่านบาดแผลทางผิวหนัง
บาดแผลขนาดใหญ่หรือแผลไหม้ที่รุนแรงสามารถทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำและอิเล็กโทรไลต์ผ่านทางผิวหนังได้มาก นอกจากนี้ ในกรณีของแผลไหม้ ร่างกายยังอาจสูญเสียน้ำเพิ่มเติมจากการสร้างของเหลวเพื่อรักษาบาดแผล (Exudate) ซึ่งหากไม่ได้รับการทดแทนอย่างเพียงพอ ก็อาจนำไปสู่อาการขาดน้ำได้
อาการขาดน้ำมีลักษณะเป็นอย่างไร ?
ความรุนแรงของอาการขาดน้ำอาจแตกต่างกันไป ตั้งแต่ระดับเล็กน้อยที่ร่างกายอาจปรับตัวได้ ไปจนถึงระดับรุนแรงที่อาจเป็นอันตรายต่อชีวิต โดยภาวะขาดน้ำสามารถส่งผลกระทบต่อการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ทั่วร่างกาย รวมถึงสมอง ไต และระบบหัวใจและหลอดเลือด สามารถแบ่งอาการ Dehydration ได้เป็น 3 ระดับ ดังนี้
ขาดน้ำเล็กน้อย (สูญเสียน้ำ 1-5% ของน้ำหนักตัว)
- รู้สึกกระหายน้ำมากกว่าปกติ
- ริมฝีปากแห้ง
- ปัสสาวะมีสีเข้มขึ้นและมีปริมาณน้อยลง
- อ่อนเพลียเล็กน้อย
- ผิวแห้งและอาจมีอาการคัน
ขาดน้ำปานกลาง (สูญเสียน้ำ 6-10% ของน้ำหนักตัว)
- ปากแห้งมาก ลิ้นบวม
- ผิวหนังแห้งและไม่ยืดหยุ่น เมื่อบีบจะคืนตัวช้า
- ปัสสาวะน้อยมากและมีสีเข้ม
- ตาลึก และอาจมีอาการปวดศีรษะ
- หัวใจเต้นเร็วขึ้น
- ความดันโลหิตลดลงเมื่อลุกยืน
- อ่อนเพลียมาก มึนงง
ขาดน้ำรุนแรง (สูญเสียน้ำมากกว่า 10% ของน้ำหนักตัว)
- ผิวหนังเหี่ยวย่น ซีดและเย็น
- ชีพจรเบาและเร็ว
- ความดันโลหิตต่ำมาก
- หายใจเร็วและลึก
- สับสน ซึมลง หรือหมดสติ
- ไม่ปัสสาวะหรือปัสสาวะน้อยมาก
- อาจมีอาการชัก
- อาจเกิดภาวะช็อกและเสียชีวิตได้หากไม่ได้รับการรักษาทันท่วงที
วิธีป้องกันอาการขาดน้ำ
ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว
เป็นวิธีที่สำคัญที่สุดในการป้องกันอาการ Dehydration ปริมาณนี้เป็นคำแนะนำทั่วไป แต่อาจต้องปรับเพิ่มขึ้นตามสภาพอากาศ กิจกรรม และสภาวะร่างกายของแต่ละคน โดยทุกคนควรดื่มน้ำอย่างสม่ำเสมอตลอดวัน ไม่ควรรอจนกระหายน้ำแล้วค่อยดื่ม และสังเกตสีของปัสสาวะ ซึ่งควรมีสีเหลืองอ่อนใสซึ่งเป็นสัญญาณว่าร่างกายได้รับน้ำเพียงพอ
รับประทานอาหารที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบ
การรับประทานอาหารที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยเพิ่มปริมาณน้ำให้ร่างกายได้ โดยเฉพาะผักและผลไม้สดหลายชนิด เช่น แตงโม ส้ม แตงกวา มะเขือเทศ ซึ่งมีน้ำเป็นส่วนประกอบในปริมาณสูง นอกจากนี้ อาหารประเภทซุปหรือแกงจืดก็ช่วยเพิ่มปริมาณน้ำให้ร่างกายได้ดี แต่ขณะเดียวกัน ควรหลีกเลี่ยงอาหารรสเค็มจัดที่อาจทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำมากขึ้น
สวมเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี
การสวมเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี เป็นวิธีช่วยลดการสูญเสียน้ำจากร่างกายที่มีประสิทธิภาพ โดยควรเลือกเสื้อผ้าที่ทำจากผ้าฝ้าย หรือผ้าที่ออกแบบมาเพื่อการระบายอากาศโดยเฉพาะ นอกจากนี้ แนะนำให้สวมหมวกหรือใช้ร่มเพื่อป้องกันแสงแดดโดยตรง และเลือกเสื้อผ้าสีอ่อนที่สะท้อนความร้อนได้ดีกว่าสีเข้ม
หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้งในช่วงแดดจัด
ควรหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้ง โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่อากาศร้อนที่สุดของวัน ซึ่งมักเป็นช่วงเที่ยงถึงบ่าย หากจำเป็นต้องออกนอกบ้านในช่วงเวลาดังกล่าว ควรใช้ร่มเพื่อหลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง และพยายามอยู่ในที่ร่มหรือที่มีเครื่องปรับอากาศให้มากที่สุด
พกกระบอกน้ำติดตัว
การพกกระบอกน้ำติดตัวเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการป้องกันอาการขาดน้ำ เพราะการมีน้ำดื่มติดตัวตลอดเวลาจะช่วยเตือนให้เราดื่มน้ำเรื่อย ๆ และทำให้เรามีน้ำดื่มพร้อมเสมอเมื่อรู้สึกกระหายหรืออยู่ในสถานการณ์ที่ต้องการน้ำ เช่น ระหว่างการออกกำลังกาย หรือเมื่อต้องอยู่ในที่ที่มีอากาศร้อนจัด อีกทั้งในเด็กเล็กหากต้องออกไปข้างนอก การจัดเตรียมกระติกน้ำเก็บความเย็นสำหรับเด็กเอาไว้ก็จะช่วยให้พวกเขาได้ดื่มน้ำเพื่อดับกระหายได้ในทันที
อย่าปล่อยให้อาการ Dehydration มาเป็นอุปสรรคต่อสุขภาพของคุณและครอบครัว เริ่มต้นดูแลตัวเองและคนที่คุณรักด้วยการดื่มน้ำให้เพียงพอตั้งแต่วันนี้ สำหรับครอบครัวที่มีเด็กเล็ก ลองพิจารณาเลือกซื้อกระบอกน้ำสำหรับเด็กราคาคุ้มค่าได้ที่ Zojirushi แบรนด์ผลิตภัณฑ์เก็บความเย็นอันดับหนึ่งจากญี่ปุ่น พร้อมรับโปรโมชันดี ๆ ประจำเดือนเฉพาะที่เว็บไซต์ Official ของเราเท่านั้น
ข้อมูลอ้างอิง :
- Dehydration: Signs, Symptoms, and Effects. สืบค้นเมื่อ 18 กรกฎาคม 2567. จาก https://www.webmd.com/a-to-z-guides/dehydration-adults